บทที่ 1 บทที่ 2 บทที่ 3 บทที่ 4 บทที่ 5 บทที่ 6 หน้าหลัก

 

 

เทคโนโลยีระบบส่งสัญญาณในเครือข่ายบริเวณกว้าง

ระบบส่งสัญญาณจะแตกต่างกันมากในเรื่องของลักษณะการส่งสัญญาณ ซึ่งสามารถจำแนกระบบส่งสัญญาณเหล่านี้ออกเป็น 2 ประเภทคือ ระบบส่งสัญญาณแบบวงจรสวิตซ์ (Circuit Switched Facility) ระบบส่งสัญญาณแบบแพ็กเก็ตสวิตซ์ (Packet Switched Facility) ระบบส่งสัญญาณแบบวงจรสวิตช์ วงจรสวิตช์ เป็นกลไกสื่อสารข้อมูล ที่สร้างเส้นทางข้อมูลระหว่างสถานีรับและสถานีส่งก่อนที่จะทำการส่งข้อมูง เมื่อเส้นทางดังกล่าวนี้สร้างแล้วจะใช้ในการส่งข้อมูลได้เฉพาะสองสถานีนี้เท่านั้น ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดของระบบวงจรสวิตช์ได้แก่ ระบบ โทรศัพท์นั้นเอง โทรศัพท์แต่ละเลขหมายจะมีสายสัญญาณเชื่อมต่อมายังชุมสายโทรศัพท์ หรือ CO (Central Office) ซึ่งที่นั่นจะมีสวิตช์ติดตั้งอยู่ ระหว่างชุมสายโทรศัพท์หลายๆ ชุมสาย ทุกครั้งที่ใช้โทรศัพท์ไปที่เบอร์อื่นๆ ได้ ซึ่งบางทีอาจต้องผ่านชุมสายโทรศัพท์หลายๆ ชุมสาย ทุกครั้งที่ใช้โทรศัพท์จะมีเส้นทางสัญญาณที่ถูกจองไว้สำหรับใช้ในการสนทนาแต่ละครั้ง เมื่อเลิกใช้โทรศัพท์เส้นทางนี้ก็จะถูกยกเลิกและพร้อมสำหรับการใช้งานครั้งต่อไป การสร้างเส้นทางข้อมูลผ่านวงจรสวิตช์เป็นขั้นตอนที่สำคัญในระบบส่งสัญญาณแบบวงจรสวิตช์ เฟรมข้อมูลที่ส่งแต่ละการเชื่อมต่อจะถูกส่งผ่านเครือข่าย โดยใช้เส้นทางเดียวกันทั้งหมด

ระบบส่งสัญญาณแบบแพ็กเก็ตสวิตช์

แพ็กเก็ตสวิตช์จะต่างจากวงจรสวิตช์ คือ ระบบแพ็กเก็ตสวิตช์จะจัดเส้นทางนำส่งข้อมูลทีละแพ็กเก็ต ในขณะที่วงจรสวิตช์จะส่งแพ็กเก็ตข้อมูลผ่านเส้นทางข้อมูลเดิมที่ได้สร้างไว้แต่ตอนเริ่มต้น การรับส่งข้อมูลแบบนี้จะมีความยืดหยุ่นมากกว่า เนื่องจากสามารถจัดเส้นทางให้หลีกเลี่ยงเส้นทางที่ชำรุดในระหว่างการเชื่อมต่อได้ ในขณะที่เส้นทางข้อมูลเกิดชำรุดระหว่างการเชื่อมต่อในระบบวงจรสวิตช์จะต้องเริ่มกระบวนการเชื่อมต่อใหม่ ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของระบบแพ็กเก็ตสวิตช์ คือ การใช้ประโยชน์ลิงค์อย่างคุ้มค่า กล่าวคือ เส้นทางข้อมูลที่ใช้นั้นสามารถแชร์กันได้ระหว่างการเชื่อมต่อหลายๆ การเชื่อมต่อซึ่งถ้าเป็นระบบวงจรสวิตช์แล้วเส้นทางข้อมูลที่จองไว้แล้วจะถูกใช้โดยผู้ใช้คนอื่นไม่ได้ แพ็กเก็ตข้อมูล ดังนั้น ระบบแพ็กเก็ตสวิตช์จะทำงานช้ากว่าระบบวงจรสวิตช์

สื่อที่ทำหน้าที่เป็นช่องทางการสื่อสาร ประกอบไปด้วย

สายโทรศัพท์ (Telephone Line) เป็นช่องทางการสื่อสารในระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่รู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลาย ประกอบด้วยลวดทองแดงหุ้มด้วยฉนวน 2 เส้นพันบิดเป็นเกลียว เป็นสายสื่อสารที่ใช้ได้ทั้งในบ้านและในองค์กรธุรกิจ ซึ่งโดยทั่วไปองค์การโทรศัพท์ฯ จะเป็นผู้รับผิดชอบในการให้บริการสื่อสารข้อมูลผ่านสื่อกลางชนิดนี้ บริการดังกล่าวได้แก่

Voice-grade Service หมายถึง การสื่อสารข้อมูลในรูปของสัญญาณแอนะล็อก (Analog) บนสายโทรศัพท์ โดยมีโมเด็มเป็นเครื่องแปลงสัญญาณ มีแบนด์วิดธ์เท่ากับ 56 K bps โดยประมาณ

วงจรเช่า หรือ Leased Line, การใช้เทคโนโลยีเฟรม รีเลย์ และเอทีเอ็ม แต่ยังมีเทคโนโลยีอีกตัวหนึ่งซึ่งเริ่มมีการพูดถึงกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเชื่อมต่อขององค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เทคโนโลยีที่ว่าก็คือ IP-VPN นั่นเอง

ISDN (Integrated Services Digital Network) เป็นอีกเทคโนโลยีหนึ่งที่ผู้ให้บริการโทรศัพท์นำมาเปิดให้บริการกันเป็นจำนวนมาก (ในประเทศไทยยังอยู่ในวงจำกัด เฉพาะบางชุมสาย และจังหวัดใหญ่ หรือบริเวณที่เป็นแหล่งธุรกิจเท่านั้น : ผู้แปล) ISDN เป็นหนึ่งในโปรโตคอลที่กำหนดโดย CCITT โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเครือข่ายดิจิตอลออกไปให้กว้างไกลทั่วโลก การเชื่อมต่อทุกขั้นตอนจากผู้ใช้บริการไปยังชุมสายผู้ให้บริการ สายสัญญาณที่เชื่อมต่อระหว่างชุมสาย และจากตู้ชุมสายไปถึงผู้รับใช้สัญญาณแบบดิจิตอลทั้งหมด จึงไม่มีความจำเป็นต้องแปลงรูปแบบสัญญาณไปมาอีกต่อไป ดังนั้นบริการของ ISDN จึงเป็นบริการในแบบดิจิตอลชนิดครบวงจรโดยแท้จริง นอกจากนี้บริการ ISDN ยังให้แบนด์วิดธ์ในการรับ/ส่งข้อมูลที่ดีกว่าระบบโรศัพท์แบบเก่าๆ และสามารถให้บริการข้อมูลเสียงหรือแม้แต่ข้อมูลรูปแบบอื่นๆ (เช่น คอมพิวเตอร์, เพลง และวิดีโอ) ไปพร้อมๆ กัน ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของโปรโตคอล ISDN คือสามารถต่อติดได้รวดเร็วกว่า (ประมาณ 5-6 เท่า) หากเปรียบเทียบกับระบบโทรศัพท์ธรรมดา
ISDN ประกอบไปด้วยโปรดตคอลที่แตกต่างกัน 2 แบบ คือ BRI (Basic Rate Interface) และ PRI (Primart Rate Interface) ซึ่งจะต้องเลือกไว้ก่อนที่จะติดตั้ง โปรโตคอล PRI พอจะนำไปเปรียบเทียบได้กับ T1 สำหรับโปรโตคอล BRI นั้นเป็นมาตรฐานที่ถูกนำไปใช้งานมากกว่า

DSL ย่อมาจาก Digital Subscriber Line คือเทคโนโลยีโมเด็ม ที่ทำให้คู่สายทองแดงธรรมดา ให้กลายเป็นสื่อสัญญาณดิจิตอล ความเร็วสูง โดยใช้เทคนิคการ เข้ารหัสสัญญาณข้อมูล (Modulation) ในย่านความถี่ที่สูงกว่า การใช้งานโทรศัพท์โดยทั่วไป ทำให้เราสามารถส่งข้อมูล ในขณะเดียวกับการใช้งานโทรศัพท์ได้ โดยมีเทคโนโลยีในตระกูล DSL อยู่หลายเทคโนโลยีเช่น HDSL: High bit rate Digital Subscriber Line SDSL: Symmetric Digital Subscriber Line SDSL: Symmetric Digital Subscriber Line IDSL: ISDN Digital Subscriber Line ADSL: Asymmetric Digital Subscriber Line RADSL: Rate Adaptive Digital Subscriber Line VDSL: Very high bit rate Digital Subscriber Line

Cable Modem คืออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง (HFC Network : Hybird Fiber - Coaxial) เพื่อเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตโดยตรง โดยผ่านทางสายโทรศัพท์ แต่ไม่ต้องมีการหมุนโทรศัพท์ (dial-up) ออกไป สำหรับ Cable Modem สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ คือ แบบ One way และ แบบ Two way

X.25 เป็นมาตรฐานการติดต่อที่ยอมรับกันระหว่างประเทศซึ่ง (ITU-T) เป็นส่วนหนึ่งของระบบโดยเป็นมาตรฐานในระดับท้องถิ่นและอธิบายได้ถึงการติดต่ออย่างไรระหว่างตัวผู้ใช้ และอุปกรณ์ที่ใช้รวมทั้งการติดตั้ง. X.25 เป็นระบบที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ได้ผลดีโดยไม่คำนึงระบบการติดต่อกับเน๊ตเวิค.ดังนั้นมันจึงถูกใช้ในเน๊ตเวิคแบบ packet-switched (PSNs)โดยมีแคร์เรียเป็นหลัก อย่างเช่นบริษัทโทรศัพท์ต่างๆ. ผู้ใช้บริการจะถูกคิดเงินในราคาที่เป็นพื้นฐานเท่าที่ใช้จริง. มาตรฐานของรูปแบบ X.25 จะอยู่ในรูปแบบของแคร์เรียมาตั้งแต่ปี 1970. ซึ่งในเวลานั้น,ยังมีความต้องการระบบสื่อสารในระดับท้องถิ่นอยู่(WAN)จึงต้องมีการเตรียมการให้ระบบสามารถรองรับได้กับระบบ data networks(PDNs). X.25 คือตอนนี้ยังถูกดำเนินการโดย ITU-T ให้เป็นมาตรฐานระหว่างประเทศ.

เฟรมรีเลย์ (Frame Relay) เป็นเครื่อข่ายแบบแพ็กเก็ตสวิตย์ (แต่ก็เป็นการจำลองการเชื่อมต่อแบบแพ็คเก็ต โดยใช้ Permanent Virtual Circuit และมีโปรโตคอลใน Layer1,2) ที่นิยมใช้ใน WLAN มากในปัจจุบัน เฟรมรีเลย์เป็นเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาต่อมาจากเทคโนโลยร X.25 ซึงเป็นโปรโตคอลมาตรฐานใน WLAN โดยมีการส่งข้อมูลแบบดิจิตอลในสายไฟเบอร์ออฟติก และยังมีการพัฒนาโปรโตคอลต่อ โดยตัดส่วนที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดออกไป ซึ่งสามารถทำให้ได้ความเร็วที่เพิ่มขึ้น และสามารถรวมการเชื่อมต่อ หลายๆการเชื่อมต่อ (Visual Circuit) ให้ส่งข้อมุลผ่านไฟเบอร์ออฟติกเส้นเดียวได้ สถาปัตยกรรมของเฟรมดีเลย์ แบ่งออกเป็น 2 ส่วนคือ UNI (User-to-Network Interface) และ NNI (Network-to-Network Interface) UNI เป็นโปรโตคอลที่ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่าง DTE และ DCE NNI เป็นโปรโตคอลที่ทำหน้าที่แลกเปลี่นข้อมูลระหว่างเครือข่าย 2 เครื่อข่ายใดๆ

ระบบการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่กำลังเป็นเทคโนโลยีที่มีผู้กล่าวถึงและให้ความสนใจกันมากในขณะนี้อีกระบบหนึ่งคือ ATM ATM ที่จะกล่าวถึงในที่นี้ไม่ใช่ระบบการเบิกถอนเงินสด ATM มาจากคำย่อของ Asynchronous Transfer Mode

ATM เป็นระบบสื่อสารข้อมูลที่ใช้รูปแบบการสื่อสารเป็นแบบ แพ็กเก็จ เหมือนเช่นในเครือข่าย X.25 หรือระบบ LAN อื่น ๆ เช่น อีเทอร์เน็ตโทเกินริง แต่การสื่อสารเป็นแบบอะซิงโครนัสกล่าวคือ ตัวรับและตัวส่งใช้สัญญาณนาฬิกาแยกจากกันไม่เกี่ยวข้องกัน ก่อนหน้า